ซาอุดิอาระเบีย: ประตูสู่โอกาสทางการค้าสำหรับอุตสาหกรรมอาหารไทย

ตลาดการค้ากลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council: GCC) ซึ่งประกอบด้วย 6 ประเทศ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ คูเวต โอมาน และบาห์เรน ถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีศักยภาพสูงสำหรับสินค้าจากประเทศไทย ด้วยกับประชากรที่มีกำลังซื้อสูงและความต้องการในสินค้าเกษตร อาหารแปรรูป สินค้าอุปโภคบริโภค และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สินค้าไทยถือเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและได้รับมาตรฐานสากล จึงสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคในภูมิภาคนี้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดในซาอุดีอาระเบีย

ซาอุดีอาระเบีย เป็นตลาดที่มีความสำคัญของไทยที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากมีจำนวนประชากรประมาณ 35 ล้านคน และรายได้มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ต่อหัวประมาณ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงการมรกำลังซื้อที่สูง นอกจากนี้ ซาอุดีอาระเบียยังเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาคในตะวันออกกลาง ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย ทั้งท่าเรือและสนามบินที่ทำให้การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความสนใจในสินค้าจากไทย เช่น อาหารแปรรูป สินค้าเกษตร และผลิตภัณฑ์ฮาลาลมีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากคุณภาพที่ได้มาตรฐานและสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคชาวซาอุดีอาระเบีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดสินค้าฮาลาล

ด้วยเหตุนี้ งานแสดงสินค้าด้านอาหารนานาชาติ Foodex Saudi ครั้งที่ 11 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 - 19 กันยายน 2024 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติริยาด (Riyadh International Convention & Exhibition Center) เมืองริยาด ประเทศซาอุดิอาระเบีย เป็นอีกหนึ่งงานสำคัญที่ช่วยส่งเสริมและเชื่อมโยงอุตสาหกรรมอาหารทั่วโลก โดยมีผู้ประกอบการในภาคธุรกิจอาหารจาก 40 ประเทศเข้าร่วมงานทั้งในฐานะผู้ซื้อและผู้จัดแสดงสินค้า งานนี้ถือเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไทยจะขยายช่องทางการตลาดมายังตลาดในกลุ่ม GCC เพื่อแสดงศักยภาพ และการขยายตลาดส่งออกของผลิตภัณฑ์อาหารจากไทย โดยโอกาสของอุตสาหกรรมอาหารจากไทยดังนี้

1. อุตสาหกรรมอาหารจากไทยสู่ตลาดตะวันออกกลาง ซึ่งประเทศซาอุดีอาระเบียถือเป็นตลาดขนาดใหญ่และมีศักยภาพสูงในภูมิภาคตะวันออกกลาง ด้วยประชากรที่มากกว่า 35 ล้านคน และการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ความต้องการอาหารนำเข้าสูงขึ้นตามมาตรฐานการครองชีพที่ดีขึ้น และนโยบาย Vision 2030 ที่ต้องการสร้างเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ เพื่อทดแทนรายได้จากน้ำมัน ซาอุดีอาระเบียจึงเป็นหนึ่งในผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารรายใหญ่ของโลก ซึ่งทำให้สินค้าอาหารจากไทย เช่น อาหารแปรรูป ข้าว เครื่องปรุงรส อาหารทะเลแช่แข็ง และผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ มีโอกาสเติบโตในตลาดนี้

2. การเพิ่มยอดส่งออกสินค้าจากไทย จากการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติที่ซาอุดีอาระเบียครั้งนี้ จะช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถสร้างเครือข่ายทางธุรกิจกับผู้ค้าปลีกและผู้นำเข้ารายใหญ่ในซาอุดิอาระเบียและภูมิภาคโดยรอบ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอาหารฮาลาล ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในภูมิภาคตะวันออกกลาง และประเทศไทยมีศักยภาพในการผลิตอาหารฮาลาลที่ได้มาตรฐานสากล

3. เกิดการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปและให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ สินค้าจำพวกอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารออร์แกนิกจากประเทศไทย มีโอกาสสูงในการเจาะตลาดซาอุดิอาระเบีย อาหารไทยขึ้นชื่อในเรื่องคุณภาพสูง ความสดใหม่ และมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในซาอุดิอาระเบีย

การเข้าร่วมงานของผู้ประกอบการไทยในงานแสดงสินค้า "Foodex Saudi 2024" นอกจากจะเป็นเวทีที่ช่วยเชื่อมโยงธุรกิจระหว่างประเทศแล้ว ยังเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทยในการนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารใหม่ๆ และได้รับฟังความคิดเห็นจากผู้บริโภคในตลาดซาอุดิอาระเบียได้โดยตรง ทั้งยังสามารถสำรวจแนวโน้มของตลาดและการเปลี่ยนแปลงความต้องการทางด้านอาหารในภูมิภาคนี้ได้อย่างลึกซึ้ง โดยใช้เวทีนี้ในการสร้างความเชื่อมั่นและการรับรู้ในแบรนด์สินค้าไทย รวมถึงเป็นประตูสู่ตลาดส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ในแถบภูมิภาคตะวันออกกลางที่มีความต้องการและพฤติกรรมการบริโภคคล้ายคลึงกันอีกด้วย
..........
พิทักษ์ อาดมะเร๊ะ เรียบเรียง
ที่มา :
- https://www.bangkokpost.com/.../pm-pitches-free-trade...
- https://www.foodexsaudiexpo.com
- https://www.moc.go.th
- https://www.euromonitor.com
- https://www.statista.com